ߞߎ߬ߙߣߊ߬ ߞߟߊߒߞߋ ߞߘߐ ߟߎ߬ ߘߟߊߡߌߘߊ - ߟߊߘߛߏߣߍ߲" ߞߎ߬ߙߣߊ߬ ߞߟߊߒߞߋ ߞߘߐߦߌߘߊ ߘߐ߫ ߕߊߌߟߊߣߘߌ߲ߞߊ߲ ߘߐ߫

ߞߐߜߍ ߝߙߍߕߍ:close

external-link copy
18 : 5

وَقَالَتِ ٱلۡيَهُودُ وَٱلنَّصَٰرَىٰ نَحۡنُ أَبۡنَٰٓؤُاْ ٱللَّهِ وَأَحِبَّٰٓؤُهُۥۚ قُلۡ فَلِمَ يُعَذِّبُكُم بِذُنُوبِكُمۖ بَلۡ أَنتُم بَشَرٞ مِّمَّنۡ خَلَقَۚ يَغۡفِرُ لِمَن يَشَآءُ وَيُعَذِّبُ مَن يَشَآءُۚ وَلِلَّهِ مُلۡكُ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضِ وَمَا بَيۡنَهُمَاۖ وَإِلَيۡهِ ٱلۡمَصِيرُ

ชาวยิวและชาวคริสต์กล่าวอ้างว่า พวกเราเป็นบุตรของอัลลอฮฺและเป็นที่รักของพระองค์ โอ้ท่านเราะซูล จงกล่าวตอบพวกเขาเถิดว่า แล้วไฉนเล่าพระองค์จึงได้ลงโทษพวกเจ้าด้วยเพราะบาปที่พวกเจ้าได้กระทำไว้?! หากพวกเจ้าเป็นที่รักของพระองค์จริงตามที่พวกเจ้าได้กล่าวอ้าง แน่นอนพระองค์จะไม่ลงโทษพวกเจ้าด้วยการฆ่าและเปลี่ยนรูปพวกเจ้าให้เป็นสัตว์ในโลกนี้ และจะไม่ลงโทษพวกเจ้าในโลกหน้า เพราะพระองค์จะไม่ลงโทษผู้ที่พระองค์รัก แต่พวกเจ้าเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไป ผู้ใดที่ปฏิบัติความดี พระองค์ก็จะตอบแทนเขาด้วยสรวงสวรรค์ และผู้ใดที่ปฏิบัติชั่วพระองค์ก็จะลงโทษเขาด้วยไฟนรก ซึ่งพระองค์จะทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ด้วยความกรุณาของพระองค์ และจะทรงลงโทษผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ด้วยความยุติธรรมของพระองค์ และกรรมสิทธิ์แห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองเป็นของอัลลอฮฺเพียงผู้เดียว และยังพระองค์เท่านั้นที่ทุกคนต้องกลับไป info
التفاسير:

external-link copy
19 : 5

يَٰٓأَهۡلَ ٱلۡكِتَٰبِ قَدۡ جَآءَكُمۡ رَسُولُنَا يُبَيِّنُ لَكُمۡ عَلَىٰ فَتۡرَةٖ مِّنَ ٱلرُّسُلِ أَن تَقُولُواْ مَا جَآءَنَا مِنۢ بَشِيرٖ وَلَا نَذِيرٖۖ فَقَدۡ جَآءَكُم بَشِيرٞ وَنَذِيرٞۗ وَٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَيۡءٖ قَدِيرٞ

โอ้บรรดาชาวคัมภีร์ทั้งที่เป็นยิวและคริสต์ทั้งหลาย แท้จริงเราะซูลของเรามุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม ได้มายังพวกเจ้าแล้วหลังจากที่ได้ถูกตัดขาดจากบรรดาเราะซูลและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่งเราะซูลมา ทั้งนี้เพื่อไม่อยากให้พวกเจ้าต้องมาแก้ตัวว่า ไม่มีเราะซูลสักคนมายังพวกเราที่แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับผลบุญของอัลลอฮฺและเตือนการลงโทษของพระองค์ ดังนั้นแน่นอนเราะซูลมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม ได้มายังพวกเจ้าแล้วโดยแจ้งข่าวดีเกี่ยวกับผลบุญและเตือนถึงการลงโทษของพระองค์ และพระองค์มีความสามารถเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใดสามารถสกัดกั้นพระองค์ได้ และหนึ่งในความสามารถของพระองค์นั้นคือการส่งบรรดาเราะซูลมา และสิ้นสุดด้วยมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอลัยฮิวะซัลลัม info
التفاسير:

external-link copy
20 : 5

وَإِذۡ قَالَ مُوسَىٰ لِقَوۡمِهِۦ يَٰقَوۡمِ ٱذۡكُرُواْ نِعۡمَةَ ٱللَّهِ عَلَيۡكُمۡ إِذۡ جَعَلَ فِيكُمۡ أَنۢبِيَآءَ وَجَعَلَكُم مُّلُوكٗا وَءَاتَىٰكُم مَّا لَمۡ يُؤۡتِ أَحَدٗا مِّنَ ٱلۡعَٰلَمِينَ

โอ้ท่านเราะซูล และจงรำลึกเถิด ขณะที่มูซาได้กล่าวกับประชาชาติของเขาบะนีอิสรออีลว่า โอ้ประชาชาติของฉัน จงรำลึกด้วยจิตใจและลิ้นของพวกเจ้าซึ่งความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อพวกเจ้าขณะที่พระองค์ได้ทรงให้มีในหมู่พวกเจ้าซึ่งบรรดานบีที่เชิญชวนพวกเจ้าไปสู่ทางนำ และได้ทรงให้พวกเจ้ามีอำนาจบริหารกิจการของพวกเจ้าเองหลังจากที่พวกเจ้าได้เคยตกเป็นทาสมาก่อน และพระองค์ได้ทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์แก่พวกเจ้าในสิ่งที่พระองค์มิเคยประทานให้กับประชาชาติใดมาก่อนในสมัยพวกเจ้า info
التفاسير:

external-link copy
21 : 5

يَٰقَوۡمِ ٱدۡخُلُواْ ٱلۡأَرۡضَ ٱلۡمُقَدَّسَةَ ٱلَّتِي كَتَبَ ٱللَّهُ لَكُمۡ وَلَا تَرۡتَدُّواْ عَلَىٰٓ أَدۡبَارِكُمۡ فَتَنقَلِبُواْ خَٰسِرِينَ

มูซาได้กล่าวว่า โอ้ประชาชาติของฉัน จงเข้าไปในแผ่นดินอันบริสุทธิ์(บัยตุลมักดิสและแผ่นดินรอบๆ) ที่อัลลอฮฺได้ทรงสัญญาให้พวกเจ้าเข้าไปและทำการสู้รบกับผู้ปฏิเสธศรัทธาที่อยู่ที่นั้น และจงอย่ายอมแพ้ในการต่อสู้รบกับพวกที่แข็งแรงเหี้ยมโหด เพราะจะทำให้พวกเจ้ากลับกลายเป็นผู้ขาดทุนทั้งในโลกนี้และโลกหน้า info
التفاسير:

external-link copy
22 : 5

قَالُواْ يَٰمُوسَىٰٓ إِنَّ فِيهَا قَوۡمٗا جَبَّارِينَ وَإِنَّا لَن نَّدۡخُلَهَا حَتَّىٰ يَخۡرُجُواْ مِنۡهَا فَإِن يَخۡرُجُواْ مِنۡهَا فَإِنَّا دَٰخِلُونَ

ประชาชาติของเขากล่าวว่า โอ้มูซา แท้จริงในแผ่นดินอันบริสุทธิ์(บัยตุลมักดิสและแผ่นดินรอบๆ)นั้นมีกลุ่มชนหนึ่งที่แข็งแกร่งและเหี้ยมโหด ซึ่งสิ่งนี้มันจะห้ามเรามิให้เข้าไปในแผ่นดินนั้น ดังนั้นพวกเราจะไม่เข้าไปในแผ่นดินนั้นเป็นอันขาดตราบใดที่พวกเขายังอยู่ เพราะเราไม่มีอำนาจและพลังความสามารถในการสู้รบกับพวกเขา แต่ถ้าพวกเขาออกไปจากที่นั้นแล้ว พวกเราก็จะเข้าไป info
التفاسير:

external-link copy
23 : 5

قَالَ رَجُلَانِ مِنَ ٱلَّذِينَ يَخَافُونَ أَنۡعَمَ ٱللَّهُ عَلَيۡهِمَا ٱدۡخُلُواْ عَلَيۡهِمُ ٱلۡبَابَ فَإِذَا دَخَلۡتُمُوهُ فَإِنَّكُمۡ غَٰلِبُونَۚ وَعَلَى ٱللَّهِ فَتَوَكَّلُوٓاْ إِن كُنتُم مُّؤۡمِنِينَ

มีชายสองคนในหมู่สาวกของมูซาที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺและเกรงกลัวการลงโทษของพระองค์ที่พระองค์ได้ทรงประทานความกรุณาให้ทั้งสองเชื่อฟังพระองค์ โดยที่ทั้งสองส่งเสริมให้กลุ่มชนของพวกเขาปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของมูซาว่า จงเข้าไปหาพวกแข็งแกร่งเหี้ยมโหดนั้นทางประตูเมืองเถิด เมื่อพวกเจ้าบุกประตูเข้าไปแล้ว แน่นอน(ด้วยการอนุมัติของพระองค์) พวกเจ้าจะได้รับชัยชนะโดยมั่นใจในกฎของอัลลอฮฺที่ว่า ชัยชนะนั้นย่อมมาจากการเตรียมการและการวางแผนที่ดี เช่น การศรัทธาต่ออัลลอฮฺ การเตรียมเครื่องมืออาวุธต่างๆ และแด่อัลลอฮฺเท่านั้นพวกเจ้าจงยึดมั่นและมอบหมาย หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริง เพราะการศรัทธาที่แท้จริงนั้นจำเป็นต้องมอบหมายแด่อัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว info
التفاسير:
ߟߝߊߙߌ ߟߎ߫ ߢߊ߬ߕߣߐ ߘߏ߫ ߞߐߜߍ ߣߌ߲߬ ߞߊ߲߬:
• تعذيب الله تعالى لكفرة بني إسرائيل بالمسخ وغيره يوجب إبطال دعواهم في كونهم أبناء الله وأحباءه.
•การลงโทษของอัลลอฮฺที่มีต่อผู้ปฏิเสธศรัทธาในหมู่บะนีอิสรออีลด้วยการเปลี่ยนร่างพวกเขาให้เป็นสัตว์และอื่นๆ นั้น ทำให้ข้ออ้างของพวกเขาที่ว่า พวกเขาเป็นบุตรของอัลลอฮฺและเป็นที่รักของพระองค์นั้นไม่เป็นความจริง info

• التوكل على الله تعالى والثقة به سبب لاستنزال النصر.
•การมอบหมายแด่อัลลอฮฺและมั่นใจต่อพระองค์นั้นเป็นสาเหตุให้ได้รับชัยชนะ info

• جاءت الآيات لتحذر من الأخلاق الرديئة التي كانت عند بني إسرائيل.
• โองการเหล่านี้ได้เตือนเพื่อให้ห่างไกลจากมารยาทที่ต่ำต่อยที่เคยมีอยู่ในหมู่บะนีอิสรออีล info

• الخوف من الله سبب لنزول النعم على العبد، ومن أعظمها نعمة طاعته سبحانه.
• การเกรงกลัวอัลลอฮฺเป็นสาเหตุให้ได้รับความกรุณาของพระองค์ และส่วนหนึ่งจากความกรุณาที่ยิ่งใหญ่นั้นคือ การได้เชื่อฟังพระองค์อัลลอฮฺ ตะอาลา info